เบน แอฟเฟล็ค และเส้นทางการเลิกเหล้าอันแสนยาวนาน

July 9, 2020


หากกวาดตามองไปในแวดวงฮอลลีวูด การจะหานักแสดงมากฝีมือที่ยืนระยะในวงการมาได้โดยกระแสไม่ตกมานับสิบปีน่าจะมีอยู่เพียงไม่กี่หยิบมือ และคงจะน้อยลงไปอีก หากควานหานักแสดงที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับ ทั้งยังประสบความสำเร็จทั้งสองด้าน

แน่นอนว่าชื่อของ เบน แอฟเฟล็ค น่าจะติดโผเป็นหนึ่งในรายชื่ออันน้อยนิดเหล่านั้น ก่อนหน้าที่เขาจะถูกแซะแกมแซวว่าเป็น Sad Batman ยืดสลดอยู่หน้ารถแบ็ตโมไบล์ในหนังแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่ของค่ายดีซี แอฟเฟล็คก็ดังระเบิดในฐานะนักแสดงและคนเขียนบทจาก Good Will Hunting (1997) ที่ส่งเขากับ แมตตฺ์ ดามอน เพื่อนรักที่ร่วมเขียนบทและแสดงด้วยกันคว้าออสการ์ด้วยวัยเพียง 25 ปี และถัดจากนั้นเพียงปีเดียว เขาก็เป็นรับบทเป็นหนุ่มนักเจาะน้ำมันที่ได้ไปช่วยกู้โลกในหนังระเบิดดาวเคราะห์ Armageddon (1998) ของป๋าไมเคิล เบย์ หลังจากนั้น ชื่อของเบน แอฟเฟล็ค ก็ลอยติดลมบนเพดานของอุตสาหกรรมฮอลลีวูดมาอย่างยาวนาน จะเล่นหนังแป้กหนังเซอร์บ้างแต่ก็ยังเป็นนักแสดงเบอร์ใหญ่ที่วงการบันเทิงอเมริการักอยู่ดี

ควบคู่ไปกับความสำเร็จมหาศาล แอฟเฟล็คพบว่าชื่อเสียงนำพาความยากลำบากบางอย่างมาให้ เช่นเดียวกับคนดังอีกครึ่งวงการ เขาต้องอดทนกับการเผชิญหน้าปาปารัซซี่ที่วนเวียนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต นับตั้งแต่เขาสร้างชื่อจากการเป็นไอ้หนุ่มนักเขียนบทแห่ง Good Will Hunting, ออกเดตกับสาวฮ็อตโลกระเบิด เจนนิเฟอร์ โลเปซ (ถึงขั้นที่สื่อตั้งฉายาให้ทั้งคู่ว่า เบนนิเฟอร์ เลยนะเอ้อ!) ตามมาด้วยการแต่งงานกับเจนนิเฟอร์ การ์เนอร์

แต่ถ้าถามแอฟเฟล็ค เขาอาจจะบอกว่า ปัญหาการดีลกับความเป็นส่วนตัวและชื่อเสียงก็อาจมีส่วนทำให้เขาหันมาพึ่งพาและใช้แอลกอฮอล์เป็นเครื่องปลอบประโลม และมากไปกว่านั้น มันอาจเป็นหนึ่งในวิธีการเยียวยาเขาจากบาดแผลบางอย่างของครอบครัวที่เขาจำต้องรับมืออย่างยาวนานก็เป็นได้

“พ่อดื่มเหล้าทุกวัน ไม่เคยหยุดจนผมอายุ 19 นั่นแหละ” เขาเคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์ค ไทม์สไว้เช่นนั้น ในวัยเด็ก แอฟเฟล็คคือเด็กชายจากแคลิฟอร์เนียที่เติบโตขึ้นมาโดยเห็นพ่อดื่มเหล้า “ทั้งวันและทุกวัน” ทั้งยังใช้ความรุนแรงและก่อปัญหาอันเนื่องมาจากสุรา จนเมื่อแอฟเฟล็คอายุได้ 11 ขวบ พ่อก็ตัดสินใจหย่าขาดจากแม่ของเขา และกลายเป็นคนไร้บ้านซึ่งก็ยังคงดื่มหนักอย่างต่อเนื่องจนถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดในที่สุด

“แต่ก็นะ ยิ่งโต ผมก็ยิ่งเข้าใจว่า พ่อได้พยายามทำเพื่อพวกเราอย่างดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ในเวลานั้นแล้ว ในครอบครัวผมเต็มไปด้วยคนที่ติดสุราและมีปัญหาทางจิตรายล้อมรอบตัวไปหมด มันส่งผ่านมายังพวกเราซึ่งเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะสลัดให้หลุด” แอฟเฟล็คว่า ย่าของเขาฆ่าตัวตายในห้องด้วยวัย 46 เช่นเดียวกันกับลุงที่ปลิดชีวิตด้วยปืนสั้น และป้าซึ่งติดเฮโรอีน ทำให้แอฟเฟล็คเติบโตขึ้นมาโดยมีเรื่องราวเหล่านี้เป็นฉากประดับในชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้

ถ้าถอยนาฬิกาย้อนกลับไปสมัยที่เขายังวัยรุ่น สี่ปีภายหลังจากที่พ่อเดินออกจากบ้านและไม่หวนกลับเข้ามาอีก เบน แอฟเฟล็คในวัย 15 ปีเริ่มหัดลองดื่มเหล้า จนแม่ต้องส่งเขาไปเข้าค่ายสำหรับเยาวชนที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงจะก้าวร้าวและใช้ความรุนแรง ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำให้เจ้าหนุ่มแอฟเฟล็คหย่าขาดจากแอลกอฮอล์แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ เมื่อชื่อเสียงของเขาระเบิดเป็นพลุตอนวิ่งขึ้นไปรับรางวัลออสการ์ในฐานะคนเขียนบทหนังร่วมกับแมตต์ ดามอนเพื่อนรัก บวกกับความสำเร็จจาก Armageddon ทำให้เขายังต้องเจอพายุชื่อเสียงถาโถมจนทำให้หวนกลับไปใช้แอลกอฮอล์เยียวยาอีกครั้ง และถูกส่งเข้ารับการบำบัดอย่างเร่งด่วนเป็นครั้งแรกๆ

ระหว่างนั้น แอฟเฟล็คปรากฏตัวในหนังฮอลลีวูดแทบจะทุกปี กล่าวได้ว่า ราวปี 2000 เรื่อยมาจนถึงช่วงกลางๆ คือยุครุ่งเรืองของเบน แอฟเฟล็คโดยแท้จริง เขาอยู่ในหนังแอ็กชั่น หนังโรแมนติกและหนังดราม่า วุ่นวายอยู่กับเส้นแบ่งความมีชื่อเสียงและความเป็นส่วนตัวที่ชักจะลางเลือนเข้าไปทุกที ทำให้ในที่สุด เขากลับมาดื่มสุราอีกครั้ง และอาจจะหนักกว่าเดิม 

“ผมจะดื่มจนกว่าจะน็อคหลับคาโซฟาที่บ้านนั่นแหละ” เขาว่า และนั่นคือพฤติกรรมการดื่มประจำวันที่หากมองเข้าไปจากภายนอก เราคงตั้งข้อสังเกตว่า พ่อหนุ่มหน้ามนคนนี้เห็นทีจะหนีไม่พ้นอาการติดสุราเป็นแน่แท้ แต่เขาก็เพียรปฏิเสธมาตลอด จนเมื่อสังเกตเห็นว่าร่างกายชักจะไม่ไหวและ “เราเหมือนจะหลับบนโซฟามากกว่าเตียงนะนี่” เขาจึงต้องจัดการตัวเองอย่างเร่งด่วนด้วยการเข้ารับการบำบัดอีกครั้ง

“นานทีเดียวล่ะ กว่าผมจะตระหนักอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ เพื่อจะยอมรับว่าตัวเองกำลังติดเหล้า” เขาว่า 

เคย์ซี แอฟเฟล็ค น้องชายแท้ๆ ของเขาซึ่งเป็นนักแสดงเหมือนกัน (และถูกพี่ชายจิ้มมาให้ช่วยแสดงนำในหนังที่กำกับเองครั้งแรกอย่าง Gone Baby Gone เมื่อปี 2007 ซึ่งปรากฏว่าเป็นการแจ้งเกิดของแอฟเฟล็คคนพี่ในฐานะผู้กำกับหนังได้อย่างงดงามทีเดียว) เคยกล่าวถึงประเด็นนี้อย่างอึดอัดว่า “ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกันครับ เราล้วนเผชิญหน้ากับอาการติดแอลกอฮอล์มาด้วยกันอย่างยาวนาน เบนก็ติดสุรา ปู่ย่าของผมก็ติดสุรา พ่อของผมก็ด้วย ติดสุราหนักเท่าที่ใครสักคนจะติดได้น่ะ

“เบนก็พยายามมากเลยนะครับ ซึ่งมันก็ยากเหลือเกิน เขาโชคดีที่มีคนช่วยและมีเวลาในการเยียวยาตัวเองน่ะ” แอฟเฟล็คคนน้องอธิบาย ก่อนขยายความถึงสภาพการณ์ที่ทำให้พี่ชายของเขาหวนไปติดเหล้าหรือแม้แต่ทำให้เลิกเหล้าลำบาก “มันไม่ง่ายเลยที่จะทำอะไรต่อมิอะไรโดยที่มีแต่คนจ้องจะถ่ายรูปคุณไปขาย ผมไม่ได้ริษยาอะไรพี่เขาเลย ผมเคยเห็นพ่อต่อสู้กับอาการติดเหล้ามาตั้งเป็นปีๆ ขนาดว่านั่นไม่มีใครตามถ่ายรูปหรือตามจ้องเขาทุกฝีก้าวนะ แต่มันดูไม่จืดเท่าไหร่หรอก แต่ในทางกลับกัน ก็ไม่ได้มีอะไรต้องอับอายนะครับ และดีแล้วที่เบนหาทางรับมือกับมันได้”

ถัดจากนั้น เบน แอฟเฟล็ค ก็ระเบิดฟอร์มร้อนแรงในฐานะคนทำหนังเมื่อกำกับ The Town (2010) จนส่ง เจเรมี เรนเนอร์ เข้าชิงสมทบชายอดเยี่ยมของออสการ์และตามมาด้วย Argo (2012) ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์แห่งปีของออสการ์จนแอฟเฟล็คน้ำตาซึมตอนขึ้นไปรับรางวัล (ส่วนในอีกสี่ปีต่อมา เคซีย์ แอฟเฟล็คก็เป็นฝ่ายคว้าออสการ์ในฐานะนำชายยอดเยี่ยมจาก Manchester by the Sea และทำเอาเบน แอฟเฟล็ค ระเบิดน้ำตาที่งานด้วยความตื้นตันใจอีกรอบ แถมในปีเดียวกันนั้น เบน แอฟเฟล็คยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงชายยอดแย่ของราซซีอวอร์ดอีกต่างหาก กลายเป็นที่แซวขำขันของสื่อมวลชนอยู่พักหนึ่ง) 

เบน แอฟเฟล็ค ต้องหวนกลับมาตั้งหลักการบำบัดอีกครั้งภายหลังกลับมาดื่มอย่างหนักอีกครั้ง “แหงล่ะครับ การบำบัดมันน่าอาย” เขาว่า “ผมหวังว่ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง หวังสุดหัวใจว่ามันจะไม่ไปอยู่บนอินเตอร์เน็ตเพราะเดี๋ยวลูกๆ จะโตมาแล้วเห็น

“แต่การพูดเรื่องการติดเหล้าและการบำบัดไม่ได้รบกวนอะไรผมอีกแล้วล่ะ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เป็นเรื่องที่ผมข้ามผ่านมาได้ และมันก็ไม่ได้ทำลายตัวตนของผมหรือกลายเป็นทุกสิ่งในชีวิต แต่มันเป็นเรื่องที่คุณต้องรู้ว่า จะต้องรับมือกับมันให้ได้ ผมแค่รู้สึกว่าผมมีปัญหาและต้องจัดการมันซะ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ผมก็ภูมิใจอยู่นะที่บำบัดจนได้ เพราะมันคือตัวคุณ ชีวิตคุณ ครอบครัวของคุณ และคนรอบๆ ตัวที่จะประคับประคองให้คุณผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้”

 

 


 

ที่มา

Ben Affleck opens up about alcohol addiction, depression and his biggest disappointment

Ben Affleck shares how he got better and moved on after struggles with alcohol, Part 1 | ABC News

 

เรื่องและภาพ: ทีมงาน Alcohol Rhythm

Related Articles