แมตธิว เพอร์รี สีสันสำคัญของซีรีส์ Friends ผู้อมทุกข์เพราะติดเหล้า

March 3, 2020


“หวัดดี ผมชื่อแชนด์เลอร์ เวลาผมอึดอัดผมจะปล่อยมุกตลกครับ”

 

ใครบ้างจะไม่รักตัวละคร แชนด์เลอร์ บิง จากซีรีส์มหากาพย์แห่งยุค 2000 อย่าง Friends เขาคือตัวละครเปี่ยมสีสัน ปากคอเราะรายและน่ารักน่าชังในหลายๆ ความหมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เพียงเกิดจากการเขียนบทอันชาญฉลาดของทีมงานเบื้องหลังเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยพลังการแสดงและเสน่ห์เฉพาะตัวของ แมตธิว เพอร์รี ผู้รับบทเป็นแชนด์เลอร์ยาวนานตลอดสิบปีเต็ม จนแชนด์เลอร์กลายเป็นตัวละครที่เป็นภาพจำของเขาในที่สุด

 

แต่ในสิบปีอันยาวนานและเรืองรองด้วยความสำเร็จนี้ แฟนซีรีส์หลายคนคงสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างของเพอร์รี นั่นคือร่างกายที่ผอมบางสุดขีดและการเลี่ยงไม่ออกสื่อนานพักใหญ่ นำมาสู่คำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับร่างทรงแชนด์เลอร์ บิงอันเป็นที่รักคนนี้กัน

 

 

เพอร์รีเป็นนักแสดงชาวแคนาดา-อเมริกัน สมัยเรียนมัธยมเขาใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัดและมีวินัยในฐานะนักกีฬาเทนนิสตัวแทนเยาวชนทีมชาติของแคนาดา ทุ่มฝึกซ้อมสิบชั่วโมงต่อวัน ก่อนที่จะต้องย้ายตามครอบครัวมาอยู่ในลอสแองเจลิส เทนนิสที่เคยเป็นตารางหลักของชีวิตก็ห่างหายกลายเป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น ประจวบเหมาะกับที่เขาได้เข้าวงการจากการรับบทสมทบเล็กๆ ในหนังออกฉายทางโทรทัศน์ เพอร์รีอธิบายว่าช่วงนั้นเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงจำนวนมากที่ไม่มีอะไรโดดเด่นไปกว่าคนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมนี้เลย (แถมยังเคยเย้าความไม่ดังของตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่างานหลักในตอนนั้นคือ ไปออกรายการที่ดาราเบอร์ใหญ่ๆ อย่าง จอร์จ คลูนีย์ ปฏิเสธจะไม่ไปแล้วเขาต้องไปเสียบแทน)

 

แต่นั่นคือก่อนการมาถึงของซีรีส์ Friends ในปี 1994 ที่เขารับบทเป็นแชนด์เลอร์ หนึ่งในหกตัวละครหลักของเรื่อง แชนด์เลอร์เป็นพนักงานบริษัทหนุ่มปากคอเราะรายและเพียบไปด้วยมุกตลกเสียดสี ทั้งยังเป็นตัวละครที่มีปมเรื่องครอบครัว นำมาสู่อาการติดบุหรี่เพื่อหาทางให้ตัวเองผ่อนคลายความเครียดลง จนเพื่อนๆ ในกลุ่มต้องคอยหาทางช่วยเขาเลิกบุหรี่ให้ได้ก่อนที่ปอดจะพังทั้งสองข้าง (“ปอดฉันเล็กเท่าเด็กสองขวบเองนะ” แชนด์เลอร์แซวตัวเอง)

 

อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเพอร์รีนั้นไม่ได้ห่างไกลจากแชนด์เลอร์มากนัก หากวัดจากการใช้บุหรี่และแอลกอฮอล์มาเยียวยาบำบัดความรู้สึกตัวเอง

 

“ผมแสดงเรื่อง Friends ตั้งแต่อายุ 24 ถึง 34 ปี และเป็นช่วงที่ชื่อเสียงรุ่งโรจน์ที่สุด เราทั้งหกคนออกเดินทางไปทุกที่ตลอดเวลา ถ้าคนนอกมองเข้ามาคงเข้าใจว่าผมมีทุกอย่างที่อยากมี แต่จริงๆ แล้วตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมากนะ เพราะอยู่ในช่วงติดเหล้าอย่างรุนแรง” เขาว่า

 

“ผมหยุดตัวเองไม่ได้เลย ต่อให้ทุกอย่างมันเลวร้ายสุดขีด แต่ผมก็หยุดดื่มไม่ได้ จากนั้นแหละที่ทุกคนเริ่มรู้แล้วว่าผมติดเหล้า”

 

เพอร์รีไม่ได้เพิ่งมาดื่มเหล้าหลังจากแสดงซีรีส์ Friends ก่อนหน้านี้เขาดื่มเหล้ามาบ้าง แต่มาถลำลึกจนกลายเป็นการเสพติดก็เมื่อชื่อเสียงระเบิดใส่จนตั้งรับไม่ทัน ในซีซั่นแรก เขาปรากฏตัวในฐานะชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์กับรอยยิ้มมุมปาก ตามมาด้วยซีซั่นที่สองซึ่งเขาเข้าไปนั่งในใจคนดูเรียบร้อย  ก่อนที่แฟนๆ จะตระหนกกับความซูบผอมของเพอร์รีที่ปรากฏบนหน้าจอในซีซั่นสาม

 

นั่นเป็นช่วงเวลาที่เพอร์รีดื่มเหล้าหนักที่สุดและจำต้องเข้ารับการบำบัดอย่างเร่งด่วนก่อนทำหน้าที่การงานพัง หรือเลวร้ายกว่านั้นคือถึงแก่ชีวิต

 

“ต้องบอกว่าผมไม่เคยรู้สึกดีแบบนั้นมาก่อนเลยในชีวิต แน่นอนว่าผมติดยาและแอลกอฮอล์ แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้จริงๆ”

 

ขณะเดียวกัน “มันหนักหน่วงมากเสียจนผมบอกได้แค่ว่า ผมทำความทรงจำหล่นหายไปราวๆ สามปีได้ ฉะนั้น ช่วงถ่ายทำซีรีส์ Friends ซีซั่น 3 ถึงซีซั่นที่ 6 ผมจึงจำอะไรไม่ได้เลย”

 

ดังนั้น ก่อนที่ทุกอย่างจะดำดิ่งจนกระทบต่อชีวิตในมิติอื่นๆ เพอร์รีจึงพยายามอย่างหนักในการบำบัดอาการติดเหล้า ซึ่งเขาพบว่ามันไม่ง่ายเลย

 

“คุณติดเหล้าติดยามาเป็นปีเลยนะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเลิกสิ่งพวกนี้ในเวลาแค่ 28 วัน เพราะฉะนั้น การมีสตินี่แหละ คือสิ่งที่ยากที่สุดของกระบวนการนี้แล้ว” เพอร์รีอธิบาย

 

เขาตั้งกฎกับตัวเองแน่วแน่ว่าจะไม่ดื่มในกองถ่ายหรือระหว่างการทำงานเด็ดขาด แต่เมื่อเขาเกิดอาการตัวสั่น เหงื่อออก และตึงเครียดจากภาวะขาดเหล้า เพอร์รีจึงเลือกแก้ปัญหาด้วยการกลับไปดื่มก่อนทำงาน ทำให้ตัวเองเมาเละจนไม่เกิดอาการสั่นเทาขึ้นมาระหว่างถ่ายทำ

 

แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นเลวร้ายมาก เพราะการลากสังขารไปที่กองถ่ายในสภาพเมาค้างทำให้ทีมงานหลายคนรับมือลำบาก มากไปกว่านั้น อาการติดเหล้าอย่างรุนแรงยังทำให้เขาล้มป่วยหนัก จน ลิซา คูโดรว หนึ่งในนักแสดงนำของ Friends เคยเปรยด้วยความเป็นห่วงว่า

 

“ตอนที่แมตธิวป่วยน่ะ ทุกอย่างมันเลวร้ายมากเลย เราได้แต่ยืนนิ่งๆ อย่างสิ้นหวังข้างเขา มันเจ็บปวดนะคะ แมตธิวคือหนึ่งในคนที่เฮฮาที่สุด เขาสุภาพและน่ารักมากเลย ที่เราหัวเราะกันเป็นบ้าเป็นหลังส่วนใหญ่ก็มาจากแมตธิวนี่แหละ”

 

อาจเป็นเพราะการล้มป่วยครั้งนั้นที่ทำให้เพอร์รีตั้งใจตัดขาดจากเหล้าอย่างจริงจังอีกครั้ง เขาหันกลับไปสู้กับอาการขาดเหล้าของตัวเองอย่างห้าวหาญ และทำสำเร็จในที่สุด

 

“หลังจากผมผ่านการบำบัดมาได้ก็คิดว่าไม่มีอะไรยากไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ การข้ามผ่านมันมานั้นเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผม เพราะมันว่าด้วยการที่คุณต้องหามุมมองใหม่ๆ ในการเคารพตัวเองเมื่อต้องพยายามก้าวข้ามบางอย่างที่ยากเหลือเกิน”

 

“มีไม่กี่อย่างที่ผมรู้หลังจากเลิกเหล้าคือ มันช่วยชีวิตผม อ้อ… แล้วมันทำให้เงินไม่รั่วหลุดออกไปน่ะ” เขาปิดท้าย

 

 


ที่มา:

https://iamsober.com/blog/matthew-perry-sober-story/

https://meaww.com/the-sad-tragic-life-of-mathew-perry-you-did-not-know-about

เรื่องและภาพ : ทีมงาน Alcohol Rhythm

Related Articles