กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่หลายคนต่างโหยหาการออกนอกบ้านและอาจหดหู่เศร้าใจ ARAMAROM (อารามอารมณ์) งานนิทรรศการของ Eyedropper Fill x Occa ถูกจัดขึ้นที่ศูนย์กลางค้าริเวอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสถานที่สงบให้กับคนที่กำลังหลงทางได้ย้อนกลับมาสำรวจอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดภายในใจ และหาทางออกที่เหมาะสมให้กับตนเอง
โดยกระบวนการสำรวจจิตใจในนิทรรศการนั้น ถือว่ามีวิธีคิดที่สามารถประยุกต์ใช้เป็นตัวช่วยหนึ่งของผู้ติดสุราได้ เพราะการทบทวนถึงพฤติกรรมการดื่มและต้นตอสาเหตุของการดื่มคือจุดเริ่มต้นของการทำความเข้าใจสถานการณ์ตนเอง ยอมรับ และจะนำไปสู่เส้นทางการลด ละ เลิก ในที่สุด
Alcohol Rhythm เปลี่ยนจังหวะชีวิตคนติดเหล้า จึงขอชวนคุณย้อนมองความรู้สึกของตนเองไปพร้อมๆ กัน ผ่านชุดภาพถ่ายจากนิทรรศการ ARAMAROM
1.
“เรารู้สึกอะไรอยู่บ้างในตอนนี้”
นี่เป็นคำถามแรกที่ก่อนถอดรองเท้าก้าวเข้าไปสู่ภายในงานนิทรรศการ และเป็นคำถามแรกที่เราใช้สำรวจจิตใจตนเอง
เมื่อเข้าไปในบริเวณงานนิทรรศการ เท้าของเรารู้สึกได้ถึงสัมผัสของพื้นผ้าใบของงาน หูได้ยินเสียงที่เริ่มต้นบรรยายจากโทรศัพท์ พร้อมกับการตั้งสติผ่านลมหายใจ การอยู่กับปัจจุบันเป็นเสมือนสัญญาณในการเริ่มสำรวจตนเองเข้างานอย่างแท้จริง
จุดเริ่มต้นของงานเปรียบเสมือนอุโมงค์จงกรมที่ทำให้เราต้องอยู่กับตัวเองในช่วงเวลาหนึ่ง การเดินสัมผัสบนผ้าใบที่ถูกขึงไว้ พร้อมกับเริ่มกำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ จะทำให้เราได้สัมผัสถึงอารมณ์จากเบื้องลึกอย่างแท้จริง เราจะมีอารมณ์อย่างไร คิดอะไรอยู่ ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
เมื่อสิ้นสุดทางเดินและสิ้นสุดการตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน เราจะพบห้องต่าง ๆ ถูกแบ่งเอาไว้ตามความรู้สึก ดังนี้
2.
ความเปราะบางในใจเรา
ห้องแรกคือพื้นที่ให้คนปลดปล่อยความรู้สึกที่อึดอัด เครียด ก้อนหินสีแดงเปรียบเสมือนธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อเกิดความรู้สึกเครียด หรือความรู้สึกทางลบ เราจะเห็นมันได้อย่างเด่นชัด สีแดงเปรียบเสมือนความร้อนรุ่มในจิตใจ และคนต้องการลบล้าง ปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านั้นออกไป แม้จะชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดี
สำหรับผู้ติดสุราที่ต้องการหาทางออกบางอย่าง ทางเลือกของเขาอาจมองเห็นมีเพียงแค่แอลกอฮอล์ ที่เป็นเหมือนเพื่อนยามทุกข์ใจอยู่เสมอ แต่อีกนัยหนึ่ง รูปทรงของก้อนหินสีแดงก็กำลังบอกเราว่า ในบางครั้ง จุดเริ่มต้นของการค้นพบทางออก คือ การยอมรับว่ามีตะกอนในใจเรา พยายามเพ่งพินิจรู้เท่าทันมัน อย่าให้มันใหญ่โตไปกว่าเรา มีอำนาจเหนือเรา
3.
นับ 1 แล้วเริ่มใหม่ได้เสมอ
ผ่านพ้นการมองเห็นความรู้สึกเชิงลบของตนเองอย่างแจ่มแจ้ง ต่อไปคือห้องสำหรับการเรียกสติ และสมาธิกลับมาอีกครั้งผ่านการกำหนดลมหายใจ การมีพื้นที่สำหรับให้สำหรับคลายกังวล สีเหลืองสว่างในความเงียบสงบไม่ต่างอะไรกับความหวังและการพยายามเริ่มต้นใหม่ผ่านสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัว
เมื่อได้ลองพยายามเริ่มต้นกำหนดลมหายใจ แสงไฟต่างๆ อาจเปรียบได้กับเส้นสายนำทางให้เราย้อนกลับไปถึงสาเหตุและต้นตอของปัญหาในชีวิตที่ทำให้ผู้ติดสุราหลายคนเริ่มต้นดื่ม การลองทำความเข้าใจดูกับมันสักครั้ง อาจพบว่าสิ่งรอบตัวต่าง ๆ สามารถบำบัดจิตใจเราแทนแอลกอฮอล์ได้อยู่ไม่น้อยเลย แล้วเป็นไปได้ไหมที่เราจะแก้ไขปัญหาในชีวิตเหล่านั้น ไม่หลีกหนีโดยการดื่มอีก
4.
พื้นที่ปลอดภัยใกล้ตัว
ห้องสุดท้ายคือพื้นที่ที่มอบความปลอดภัย แสดงออกผ่าน Beanbag ซึ่งมองผิวเผินเปรียบเหมือนก้อนเมฆที่โอบอุ้มตัวเรา สีฟ้าอ่อนจางชวนให้คนรู้สึกสบายใจ พื้นที่ที่โอบล้อมด้วยวัตถุที่พร้อมจะรองรับเราทุกเมื่อ เปรียบเสมือนการมีพื้นที่สำหรับชาร์จแบตในร่างกายและจิตใจให้กลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้งและสะท้อนให้เห็นว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งที่คนเราต้องการคือความรู้สึกปลอดภัย ผู้ติดสุราเองก็ต้องการมีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับตนเองและต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือใครบางคนช่วยพยุงเราเอาไว้ในยามที่เหนื่อยล้าหรือทุกข์ใจ กลับมาพักพิงได้ในทุกครั้ง
หากลองสังเกตดีๆ อาจพบว่าพื้นที่ปลอดภัยและคอยโอบกอดให้เราพักพิงอยู่เสมออาจเป็นสิ่งหรือคนที่อยู่ใกล้ตัวก็ได้
ท้ายที่สุดนี้ เมื่อขาก้าวออกมาจากงาน สิ่งที่เราจะพบโดยรอบคือ ‘ผู้คน’ นั่นหมายความว่าสักวันหนึ่ง ผู้ติดสุราจะกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติ และภายนอกยังมีนักบำบัด ผู้คนที่คอยรับฟัง ช่วยเหลือให้คุณผ่านพ้นปัญหาไปได้อีกมากมาย อย่าลืมและอย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยล้าและทดท้อจนทนไม่ไหวเสียล่ะ
เรื่องและภาพ: ทีมงาน Alcohol Rhythm