สุราเมรัย..
บางจังหวะงานสร้างสรรค์ก็เป็นตัวเปิดและตัวปิดงานได้อย่างเต็มภาคภูมิ
บางจังหวะช่วยสานต่อบทสนทนาให้ลื่นไหล
บางจังหวะคลายเศร้า ยามที่รู้สึกเหงาเฉียบพลัน
แทบจะเป็นเรื่องสุดแสนธรรมดาสำหรับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการเพ่งมองประโยชน์ของมัน
ขณะเดียวกัน ต้องขอขัดจังหวะด้วยความเป็นจริงสักเล็กน้อยว่า ถ้าดื่มแอลกอฮอล์อย่างบ้าคลั่ง ก็ทำลายร่างกายให้ผุพังได้– อย่างน้อยๆ ก็คือสมอง
Wernicke-Korsakoff syndrome (ชื่ออ่านยากแถมดูน่าขนลุก) เป็นกลุ่มอาการของโรคทางสมองอย่างหนึ่งที่เกิดจากการขาดวิตามินบี 1 หรือในอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ‘ไทอามีน’
โดยกลุ่มอาการของโรคดังกล่าว จะมี 2 อาการที่สามารถเกิดพร้อมกัน กล่าวคือ Wernicke disease (WD) และ Korsakoff syndrome ซึ่งปกติแล้ว เจ้าอาการ WD มักเกิดก่อน จากนั้นค่อยตามด้วยเจ้าอาการ Korsakoff syndrome
อาการที่พบทั่วๆ ไปของกลุ่มโรคสมองจากการขาดวิตามินบี 1 นั้นอาจรวมถึงอาการสับสน ความเปลี่ยนแปลงด้านการมองเห็น ตลอดจนการเล่าเรื่องที่เกินจริงแบบไม่รู้ตัว
โรคพิษสุราเรื้อรังหรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบไม่มีวันหยุดพัก คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวนี้ แม้จะมีสาเหตุอื่นประปรายอย่างการขาดสารอาหาร หรืออาการอื่นที่ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบี 1 น้อยลง แต่เนื่องจากนักดื่มเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ Alcohol Rhythm เปลี่ยนจังหวะชีวิตคนติดเหล้า จึงขอนำ Wernicke-Korsakoff syndrome มาพูดถึงเพื่อที่เหล่าคอทองแดงทั้งหลายจะได้ไม่ลืมสังเกตร่างกายของตัวเอง
ปัจจัยเสี่ยง-สาเหตุ-อาการ ของ กลุ่มโรคสมองขาดวิตามินบี 1
‘การดื่มหนัก’ เป็นการตกลงยินยอมทำความรู้จักกลุ่มโรคสมองขาดวิตามินบี 1 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ข้องแวะเข้ามาทักทาย แต่ปัจจัยเหล่านั้นถ้าจะเรียกว่ายินยอมเหมือนการดื่มก็อาจไม่ถูกต้องนัก ตัวอย่างเช่น คนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลและอาหารที่เหมาะสม คนที่ต้องฟอกไตเพื่อรักษาชีวิต ซึ่งกระบวนการฟอกไตเข้าไปลดการดูดซึมของวิตามินบี 1 และคนป่วยเป็นโรคเอดส์ ซึ่งมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่ภาวะที่ทำให้ขาดวิตามินบี 1
ทั้งหมดนี้ต่างจากสาเหตุของกลุ่มโรคสมองขาดวิตามินบี 1 อันดับที่หนึ่งอย่างการติดแอลกอฮอล์ หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง โดยแพทย์คาดว่าคนที่ติดแอลกอฮอล์นั้น จะมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารค่อนข้างแย่ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังไปขัดขวาง การดูดซึมและจัดเก็บวิตามิน บี 1 อีกด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ คนที่มีอาการเกี่ยวกับการกินและการดูดซึมวิตามินบี 1 อย่างจำกัดอื่นๆ ก็มีแนวโน้มเป็นโรคสมองขาดวิตามินบี 1 ได้เช่นกัน อาทิ
– คนที่ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร ซึ่งทำให้ยากที่จะได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เนื่องจากสัดส่วนของอาหารที่เข้ามานั้นมีจำกัด
– คนที่ป่วยด้วยมะเร็งกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจจะไปจำกัดการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็น
– คนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดจนต้องงดรับประทานอาหาร
– คนที่มีโรคเกี่ยวกับการกินอื่นๆ
เมื่อร่างกายขาดวิตามินบี 1 จะทำให้เกิดรอย (เหมือนแผลเป็น) โรคที่สมอง แล้วรอยโรคที่สมองนั้นเป็นสาเหตุของการเกิด Wernicke disease (WD) ซึ่งอาการเด่นของ WD ได้แก่ การมองเห็นทับซ้อน เปลือกตาบนหลบในหรือที่เรียกว่าหนังตาตก ดวงตาเคลื่อนไหวขึ้นลงหรือเคลื่อนไหวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง สูญเสียการประสานงานของกล้ามเนื้อ หรือ Ataxia (ความผิดปกติของการควบคุมกล้ามเนื้อหรือประสานการทำงานของกล้ามเนื้อ) และสภาพจิตใจที่สับสน ซึ่งมักนำไปสู่พฤติกรรมที่รุนแรง
และถ้าพัฒนาไปสู่ภาวะ Wernicke-Korsakoff syndrome แล้ว ก็มักจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำ อาจจะมีอาการ
– ความจำเสื่อม โดยอาจจะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้หลังจากที่เกิดโรคแล้ว
– ยากจะทำความเข้าใจเรื่องความหมายของข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมา
– ยากที่จะนึกคำศัพท์ในบริบทต่างๆ
– หลอน
– เล่าเรื่องที่เกินจริง
ความยุ่งยากของการวินิจฉัยและสัญญาณเตือน
การวินิจฉัยกลุ่มอาการ Wernicke-Korsakoff syndrome ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบุคคลที่เป็นโรคนี้มักจะมีสภาพจิตใจที่สับสน ซึ่งอาจทำให้การสื่อสารกับแพทย์ยากลำบาก จนแพทย์อาจจะมองข้ามความเป็นไปได้ของความผิดปกติทางร่างกาย
ทั้งนี้ แพทย์อาจทำการเช็กสัญญาณของโรคพิษสุราเรื้อรังเป็นอย่างแรก โดยจะเช็กระดับแอลกอฮอล์ในเลือด บางครั้งก็วัดการทำงานของตับเพื่อดูความเสียหายที่เกิดขึ้นในตับ มีระดับเอนไซม์ในตับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคพิษสุราเรื้อรัง
นอกจากนี้ โรคพิษสุราเรื้อรังยังสามารถวัดจากอัตราการเต้นของหัวใจ การเคลื่อนไหวของตา การตอบสนอง ความดันเลือด และอุณหภูมิของร่างกาย
ต่อมา แพทย์จะทำการมองหาอาการทางคลินิกที่บ่งบอกถึงการขาดวิตามินบี 1 ซึ่งอาจรวมไปถึงการเจาะเลือดเพื่อวัดระดับไทอามีนและสารอาหารที่ได้รับดูให้แน่ใจว่าผู้ป่วยไม่มีอาการขาดสารอาหารผ่านกระบวนการวัดดังนี้
– ทดสอบอัลบูมินในซีรัม (Serum albumin test) การทดสอบนี้จะวัดระดับของอัลบูมินซึ่งเป็นโปรตีนในเลือด อัลบูมินในระดับต่ำอาจส่งสัญญาณบ่งบอกถึงความบกพร่องทางโภชนาการเช่นเดียวกับปัญหาที่เกี่ยวกับไตหรือตับ
– ทดสอบซีรัมวิตามินบี 1 (Serum vitamin B-1 test) การทดสอบนี้จะตรวจสอบระดับวิตามินบี 1 ในเลือด สามารถทดสอบการทำงานของเอนไซม์ในเม็ดเลือดแดง (RBCs) ได้ หากการทำงานของเอนไซม์ใน RBCs ต่ำคือสัญญาณว่าขาดวิตามินบี 1
ยิ่งไปกว่านั้น บางกรณีอาจมีการทดสอบเกี่ยวกับสมองร่วมด้วย ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถหาความเสียหายที่เป็นลักษณะของกลุ่มโรคสมองขาดวิตามินบี 1 โดยการทดสอบประกอบไปด้วยคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG หรือ (EKG) ก่อนและหลังรับประทานวิตามินบี 1 และการทำ CT scan เพื่อตรวจหารอยโรคในสมองที่เกี่ยวข้องกับ WD รวมไปถึงการสแกน MRI เพื่อค้นหาการเปลี่ยนแปลงของสมองที่เกี่ยวข้องกับ WD
อนึ่ง แพทย์อาจจะมีการใช้แบบทดสอบจิตวิทยาเพิ่มเติมทางด้านสมองเพื่อระบุความรุนแรงของความบกพร่องด้านสมองและจิตใจที่เกิดขึ้นด้วย
การรักษาที่ว่าด้วยการให้วิตามินบี 1 รวมไปถึงหยุดดื่มหนัก
คำถามต่อมาคือถ้าเป็นกลุ่มโรคสมองขาดวิตามิน 1 ต้องรักษาอย่างไร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำตอบว่าการรักษาในขั้นแรกแนะนำให้เข้ารักษาในโรงพยาบาลเพราะหลังจากตรวจสอบว่าระบบย่อยอาหารของผู้ป่วยนั้นดูดซึมสารอาหารได้เป็นปกติหรือไม่เพื่อความแน่ใจ แพทย์ค่อยตัดสินใจรักษา ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งการให้วิตามินบี 1 ทางหลอดเลือดดำที่แขนหรือมือเพื่อเติมสารอาหารอย่างเร่งด่วน เพื่อให้อาการทางระบบประสาทของโรคนั้นลดลง การให้วิตามินบี 1 ทางปาก ปรับการรับประทานอาหารให้สมดุล เพื่อให้ระดับวิตามินบี 1 สูงขึ้นในกรณีที่รอได้ รวมถึงการรักษาโรงพิษสุราเรื้อรังควบคู่กัน
อย่างไรก็ตาม บางกรณีการรักษาภาวะขาดวิตามินบี 1 อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางลบ ซึ่งพบบ่อยในผู้ที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ปฏิกิริยาทางลบต่อการได้รับวิตามินบี 1 นั้น อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน อาจมีาการหลอน ความสับสนหรือความปั่นป่วน หรือไม่ ก็เกิดอาการถอนแอลกอฮอล์ เช่น นอนไม่หลับ เหงื่อออก หรืออารมณ์แปรปรวน
ทั้งนี้ แพทย์ส่วนใหญ่มักแนะนำให้คนเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะความสาหัสของอาการนั้นขึ้นอยู่กับระยะของโรค ถ้ารีบรักษาก่อนเกิดความเสียหายถาวรจะช่วยให้แนวโน้มสุขภาพสมองของผู้ป่วยดีขึ้น ฟื้นฟูได้ สามารถดูการพัฒนาการได้จากปัญหาสายตา ความสับสน การประสานงานของกล้ามเนื้อดีขึ้น ในทางกลับกัน หากไม่ได้เข้ารับการรักษาเลย อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจากสมองเสียหายถาวร หรืออาการแทรกซ้อนอย่างการติดเชื้อในปอด เลือดเป็นพิษ
ประเด็นสำคัญที่สุด คือถ้าเรารู้ว่าการดื่มหนักและอาการติดสุราคือสาเหตุหลักของภาวะ Wernicke-Korsakoff syndrome การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อรักษาศักยภาพของสมอง หันมารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 เช่น เนื้อหมู ข้าว ถั่ว ขนมปังธัญพืช ผักโขม ส้ม นม ฯลฯ เพื่อป้องกันกลุ่มโรคสมองขาดวิตามินบี 1 อาจเป็นวิธีง่ายที่สุดที่เราสามารถนึกออก
แม้ในความเป็นจริง เส้นทางการหยุดดื่มอาจจะไม่ง่าย แต่ก็ไม่สายที่จะลองดู
ที่มา: https://www.healthline.com/health/wernicke-korsakoff-syndrome?fbclid=IwAR1eKDDRFYArd5C3noTD0GL_ydIUCHU9W8Tmfrjq9WMJYHfHuU9Z762JBzU
เรื่องและภาพ: ทีมงาน Alcohol Rhythm